วิธีติดวอลเปเปอร์เอง ทำง่ายใน 5 ขั้นตอน พร้อมประเภทของวอลเปเปอร์ และข้อดีข้อเสียที่ควรรู้

การ ติดวอลเปเปอร์ เป็นทางเลือกหนึ่งในการตกแต่งผนังบ้านให้สวยงาม มีลวดลาย และช่วยปกปิดร่องรอยผนังที่ไม่เรียบหลายแห่ง หลายคนอาจคิดว่าจำเป็นต้องจ้างช่างมืออาชีพ แต่จริง ๆ แล้วหากมีความตั้งใจ พร้อมอุปกรณ์ และวิธีการที่ถูกต้อง คุณก็สามารถ ติดวอลเปเปอร์เอง ได้อย่างสวยงาม บทความนี้ CKK Wallpaper จะช่วยให้คุณเข้าใจ วิธีติดวอลเปเปอร์ และเทคนิคต่าง ๆ ที่ควรรู้ เพื่อให้การ ติดตั้งวอลเปเปอร์ ของคุณออกมาดี โดยไม่พลาดจุดสำคัญ พร้อมเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียเมื่อเทียบกับการทาสี

ทำไมถึงควร ติดวอลเปเปอร์เอง?

การลงมือ ติดวอลเปเปอร์เอง มีข้อดีหลายอย่าง เช่น ประหยัดค่าแรง ลดต้นทุนในการจ้างช่าง และได้ความภูมิใจเมื่องานเสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้ คุณยังควบคุมคุณภาพของงานได้ตั้งแต่ต้นจนจบอย่างไรก็ตาม การติดวอลเปเปอร์ด้วยตัวคุณเองก็มีข้อจำกัด เช่น ถ้าคุณยังไม่มีประสบการณ์ อาจเกิดฟองอากาศ รอยลื่น หรือการต่อรอยไม่เนียนได้ง่าย งานอาจใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้ และหากมีความผิดพลาด อาจต้องแก้ไขหลายจุด การรู้จักประเภทวอลเปเปอร์ วิธีติดตั้ง และอุปกรณ์ที่ใช้ จึงเป็นสิ่งสำคัญ

วอลเปเปอร์มีกี่ประเภท? รู้จัก 9 ประเภทวอลเปเปอร์

การเลือกวอลเปเปอร์ที่เหมาะสมกับพื้นที่ใช้งานถือเป็นหัวใจสำคัญของการตกแต่ง เพราะวอลเปเปอร์แต่ละชนิดมีคุณสมบัติ ข้อดี และข้อจำกัดที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้คุณสามารถเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับงานตกแต่งและสภาพแวดล้อมได้ถูกต้อง จึงควรรู้จัก 9 ประเภทวอลเปเปอร์ก่อนติดตั้ง

1. วอลเปเปอร์แบบไวนิล 

วอลเปเปอร์ยอดนิยมที่ผลิตจากกระดาษเคลือบไวนิลพิมพ์สี มีความทนทานสูงมาก สามารถเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำได้ง่าย วอลเปเปอร์ไวนิลจึงเหมาะสำหรับการ ติดตั้งวอลเปเปอร์ ในพื้นที่ที่ต้องการความทนทานและการดูแลรักษาบ่อยครั้ง 

2. วอลเปเปอร์แบบดูเพล็กซ์

เป็นวอลเปเปอร์ชนิดกระดาษ (Duplex Wallpaper) พิมพ์ลายอย่างเดียว ไม่มีสารเคลือบ ทำให้มีราคาถูกและมีลวดลายหลากหลาย แต่ข้อจำกัดคือไม่ทนน้ำและไม่ทนทานต่อการใช้งานหนัก

3. วอลเปเปอร์แบบผ้า

ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติหรือใยสังเคราะห์นำมาถักทอเป็นลวดลายบนแผ่นหลังกระดาษ ให้ผิวสัมผัสและรูปลักษณ์ที่หรูหรา สง่างาม และสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น

4. วอลเปเปอร์แบบฟอยล์อลูมิเนียม

ใช้อะลูมิเนียมฟอยล์มาบุติดบนกระดาษ ให้ผิวสัมผัสที่เป็นมันวาวและสะท้อนแสงได้ดี ทำให้ห้องดูสว่าง แต่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในการ ติดวอลเปเปอร์ เพราะยับง่าย

5. วอลเปเปอร์แบบโฟม

เป็นวอลเปเปอร์ที่พื้นผิวถูกทำให้นูนหรือมีมิติคล้ายโฟม (หรือวอลเปเปอร์ 3D) ช่วยเพิ่มลูกเล่นและความนุ่มนวลในการสัมผัส และอาจช่วยในการดูดซับเสียงได้เล็กน้อย

6. วอลเปเปอร์แบบนอนวูฟเวน

ผลิตจากเส้นใยเซลลูโลสและใยสังเคราะห์ที่ไม่ผ่านการทอ มีน้ำหนักเบาและทนทาน สามารถลอกออกได้ง่ายเมื่อต้องการเปลี่ยนลาย ทำให้การ ติดตั้งวอลเปเปอร์ และการรื้อถอนสะดวก

7. วอลเปเปอร์แบบไฟเบอร์

ผลิตจากใยแก้วหรือวัสดุที่แข็งแรง ทนทานต่อการขีดข่วนและแรงกระแทกสูง และยังสามารถทาสีทับได้ เหมาะสำหรับพื้นที่สาธารณะหรือบริเวณที่มีการใช้งานหนัก

8. วอลเปเปอร์แบบไม้

วอลเปเปอร์ที่เลียนแบบพื้นผิวและลวดลายของไม้จริง บางชนิดใช้ไม้วีเนียร์บางๆ ให้ลุคที่อบอุ่นและเป็นธรรมชาติ แต่ วิธีติดวอลเปเปอร์ ง่ายกว่าการใช้ไม้จริง

9. วอลเปเปอร์แบบเท็กซ์ไทล์

ใช้วัสดุสิ่งทอเป็นด้านหลังและเคลือบผิวหน้าด้วย PVC เพื่อเพิ่มความทนทาน ป้องกันการกระแทกได้ดี และเช็ดทำความสะอาดง่าย เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีการใช้งานสูง

วิธีติดวอลเปเปอร์ ทำง่าย ๆ 5 ขั้นตอน

การติด Wallpaper เอง ไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณทำตามขั้นตอนที่เป็นระบบและเตรียมความพร้อมอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะการจัดการกับพื้นผิวผนังและอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างถูกต้อง จะช่วยให้งาน ติดตั้งวอลเปเปอร์ ออกมาเรียบเนียน สวยงาม และทนทาน แล้ว 9 ขั้นตอนติดวอลเปเปอร์เองจะมีอะไรบ้าง มาดูกัน!

1. เตรียมความพร้อมผนังก่อน ติดวอลเปเปอร์

การเตรียมผนังให้พร้อมคือขั้นตอนที่สำคัญที่สุดที่จะกำหนดความสำเร็จของงาน จึงจำเป็นต้องตรวจสอบและปรับปรุงสภาพผนังให้เรียบที่สุด เนื่องจากจากหากมีรอยขรุขระหรือความชื้นสะสม อาจทำให้เกิดปัญหาฟองอากาศหรือวอลเปเปอร์ลอกในภายหลังได้นั่นเอง

• คำนวณพื้นที่และจำนวนม้วนวอลเปเปอร์: วัดพื้นที่ผนังทั้งหมดและคำนวณจำนวนม้วนที่ต้องใช้โดยเผื่อสำหรับการต่อลายหรือความผิดพลาดไว้ด้วย
• ตรวจสอบพื้นผิวผนัง (ร่อง รอยแตก ความชื้น): โป๊วอุดร่องรอยแตกและขัดผนังให้เรียบ หากมีเชื้อราหรือความชื้นให้แก้ไขก่อน
• ปิดปลั๊ก สวิตช์ และติดตั้งองค์ประกอบที่นูน: ปิดระบบไฟ ถอดฝาครอบปลั๊ก/สวิตช์ และถอดอุปกรณ์ตกแต่งอื่นๆ ที่นูนออกมาจากผนัง
• การทาสีรองพื้น / เคลือบพื้นผิว (ถ้าจำเป็น): หากผนังใหม่หรือมีปัญหาความชื้น ควรทาสีรองพื้นเพื่อเพิ่มการยึดเกาะและป้องกันความชื้นก่อน ติดวอลเปเปอร์

2. วัด ตัด และกำหนดแนวเริ่มต้นที่แม่นยำ

ขั้นตอนต่อมาคือการกำหนดจุดเริ่มต้นที่ถูกต้องและแม่นยำที่สุด โดยเริ่มจากการใช้ตลับเมตรวัดความสูงของผนัง และตัดวอลเปเปอร์แต่ละแผ่นให้มีความยาวเผื่อขอบบน-ล่างประมาณ 5-10 ซม. ที่สำคัญคือต้อง ต่อลายวอลเปเปอร์ ให้ตรงกันก่อนตัดทุกแผ่นเพื่อไม่ให้ลายขาด เมื่อตัดเสร็จแล้ว ให้ใช้ลูกดิ่งหรือไม้บรรทัดยาวกำหนด แนวดิ่ง ของแผ่นแรกบนผนัง เพื่อเป็นแนวทางที่มั่นคงให้กับการ ติดตั้งวอลเปเปอร์ แผ่นต่อ ๆ ไป

3. ทากาวหรือลอกสติกเกอร์และติดแผ่นแรก

ตรวจสอบชนิดของวอลเปเปอร์ก่อน หากเป็นวอลเปเปอร์แบบต้องทากาว ให้ทากาวสำหรับติดวอลเปเปอร์ที่ด้านหลังของวอลเปเปอร์หรือทาที่ผนังตามคำแนะนำ หากเป็นวอลเปเปอร์แบบมีกาวในตัว (Peel-and-Stick) ก็พร้อมลอกแผ่นสติกเกอร์ออกเพื่อติด Wallpaper เองได้ทันที

4. ติดแผ่นต่อไป และต่อลายให้สนิท

นำวอลเปเปอร์แผ่นที่สองมาติดให้ชิดกับขอบของแผ่นแรกที่สุด โดยเน้นการต่อลายให้ดูต่อเนื่องและเป็นธรรมชาติ หากเป็นไปได้ให้ใช้ลูกกลิ้งสำหรับรอยต่อกดเบา ๆ บริเวณขอบชนขอบเพื่อความเรียบเนียน

5. ตัดแต่งขอบ เก็บงาน และตรวจสอบความเรียบร้อย

เมื่อ ติดวอลเปเปอร์ ครบทุกแผ่นแล้ว ให้ใช้คัตเตอร์คม ๆ และบล็อกรองหรือเกรียงตัดขอบ กรีดตัดส่วนที่เกินออกตามแนวเพดาน ขอบพื้น และซอกมุมต่างๆ เพื่อให้งานดูเรียบร้อย จากนั้นให้ตรวจสอบรอยต่อและรีดซ้ำเพื่อไล่ฟองอากาศหรือกาวส่วนเกินออกให้หมดจบท้ายด้วยการตรวจเช็กแนวตั้งและแนวนอนของลายวอลเปเปอร์ทั้งหมด เพื่อยืนยันว่าการ ติดตั้งวอลเปเปอร์ เสร็จสมบูรณ์แล้ว เท่านี้ก็จะได้ผนังห้องที่มีสีและลวดลายสวยงามแล้ว

อุปกรณ์สำหรับใช้ ติดวอลเปเปอร์

การจะ ติดวอลเปเปอร์เอง ให้ได้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนและดูเป็นมืออาชีพนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฝีมือเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการเตรียมอุปกรณ์ที่เหมาะสมและได้มาตรฐานด้วย ชุดเครื่องมือที่ครบครันจะช่วยลดความผิดพลาด ทำให้การทำงานราบรื่น และได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม

1. กาวหรือสติกเกอร์เฉพาะ: หากเป็นวอลเปเปอร์แบบไม่มีกาว ต้องเตรียมกาวสำหรับติดวอลเปเปอร์โดยเฉพาะ (เช่น กาวแป้งสำหรับวอลเปเปอร์) หรือหากเป็นแบบมีกาวในตัว ก็ตรวจสอบว่าสติกเกอร์มีความเหนียวแน่นพอหรือไม่
2. แปรงลูกกลิ้งหรือแปรงทากาว: ใช้สำหรับทากาวลงบนด้านหลังของวอลเปเปอร์หรือบนพื้นผิวผนังให้ทั่วถึงและสม่ำเสมอก่อนเริ่ม ติดตั้งวอลเปเปอร์
3. มีดเฉือน มีดคัตเตอร์ หรือกรรไกร: คัตเตอร์ที่มีใบมีดคมกริบเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการตัดขอบวอลเปเปอร์ส่วนเกินให้เรียบเนียนและสวยงาม
4. ไม้รีดหรือลูกกลิ้ง: อุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการรีดวอลเปเปอร์ให้แนบสนิทกับผนัง เพื่อไล่ฟองอากาศและกาวส่วนเกินออก ป้องกันปัญหาการพองตัวหลัง ติดวอลเปเปอร์
5. ตลับเมตร: ใช้สำหรับวัดความสูงของผนังและความยาวของม้วนวอลเปเปอร์เพื่อตัดขนาดที่ถูกต้อง และช่วยในการคำนวณการใช้พื้นที่
6. ไม้บรรทัด ดินสอ: สำหรับใช้ขีดเส้นกำหนดแนวตั้งและแนวนอนของแผ่นแรกให้ตรง เพื่อให้ติด Wallpaper แผ่นต่อไปเป็นไปอย่างแม่นยำ
7. บันได: เตรียมบันไดที่มั่นคงสำหรับปีนขึ้นไป ติดตั้ง Wallpaper ในส่วนบนของผนังหรือบริเวณเพดาน
8. บล็อกรอง: ใช้สำหรับรองในการตัดวอลเปเปอร์ให้ได้แนวตรงตามขอบมุม หรืออาจใช้เกรียงสำหรับตัดขอบ (Trimming Edge) ช่วยให้งานตัดเก็บขอบเรียบคม
9. ผ้าคลุมป้องกัน: ผ้าพลาสติกหรือผ้าเก่าสำหรับคลุมพื้นและเฟอร์นิเจอร์ เพื่อป้องกันกาวติดวอลเปเปอร์ หรือน้ำสกปรกหยดลงพื้นในระหว่างการทำงาน

ข้อดีข้อเสียของการ ติดวอลเปเปอร์เอง

ข้อดีของการ ติดตั้งวอลเปเปอร์

• ประหยัดค่าใช้จ่าย: สามารถตัดลดค่าแรงช่าง ติดตั้งวอลเปเปอร์ ไปได้อย่างมาก ทำให้ควบคุมงบประมาณได้ตามต้องการ
• ยืดหยุ่นเรื่องเวลา: คุณสามารถกำหนดตารางเวลาในการติด Wallpaper เองได้ตามความสะดวก ไม่ต้องรอคิวช่าง
• ได้ความภาคภูมิใจ: การได้ลงมือทำและเห็นผลลัพธ์ด้วยตัวเองสร้างความภาคภูมิใจและความผูกพันกับบ้านมากขึ้น

ข้อเสียของการ ติดตั้งวอลเปเปอร์

• ต้องใช้ความประณีต: หากขาดทักษะหรือความชำนาญ อาจเกิดปัญหา เช่น ติดเบี้ยว ต่อลายไม่สนิท หรือเกิดฟองอากาศได้ง่าย
• ใช้เวลาและแรงงาน: สำหรับห้องขนาดใหญ่ การติดตั้ง Wallpaper อาจใช้เวลานานและต้องใช้แรงงานมาก ซึ่งอาจไม่สะดวกสำหรับบางคน
• ต้องมีอุปกรณ์เฉพาะ: อาจต้องลงทุนซื้อเครื่องมือบางอย่าง เช่น ไม้รีด เกรียงตัด และกาวเฉพาะทาง เพื่อให้งานออกมาดี

ติดวอลเปเปอร์ กับทาสี แบบไหนดีกว่ากัน?

เมื่อพูดถึงการตกแต่งผนังภายในบ้าน หลายคนมักลังเลระหว่างการ ติด Wallpaper และการทาสีผนังเพราะทั้งสองวิธีต่างให้ผลลัพธ์ที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ในแบบของตัวเอง การเลือกวิธีที่เหมาะจึงขึ้นอยู่กับงบประมาณ ความสะดวกในการดูแล และสไตล์ที่เจ้าของบ้านต้องการ

การ ติดตั้งวอลเปเปอร์ ดีสำหรับใคร?

การ ติดตั้งวอลเปเปอร์ เหมาะกับผู้ที่ต้องการ ความสวยงามหรูหรา และลวดลายที่มีเอกลักษณ์ เพราะวอลเปเปอร์ช่วยเพิ่มมิติให้กับผนัง และสามารถสร้างบรรยากาศได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวอลเปเปอร์สไตล์มินิมอล, โมเดิร์น, วินเทจ หรือแม้แต่วอลเปเปอร์ลายไทยหรือวอลเปเปอร์ตกแต่งห้องพระที่ใช้ตกแต่งห้องเพื่อให้บรรยากาศสงบ

นอกจากนี้ วอลเปเปอร์ยังช่วยปกปิดรอยแตกร้าวของผนังได้ดี และเพิ่มความอบอุ่นให้กับห้อง ทำให้พื้นที่ดูมีดีเทลและน่าอยู่มากขึ้น

แต่ในขณะเดียวกัน การติดวอลเปเปอร์มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าและต้องอาศัยความชำนาญในการติดตั้ง หากพื้นที่มีความชื้นหรืออากาศไม่ถ่ายเท อาจเกิดเชื้อราได้ง่าย จึงเหมาะกับห้องที่มีการควบคุมอุณหภูมิและดูแลได้อย่างสม่ำเสมอ

การทาสี เหมาะสำหรับใคร?

การทาสีผนังเหมาะกับผู้ที่ชอบ ความเรียบง่ายและความยืดหยุ่น เพราะสามารถเปลี่ยนสีได้ง่าย หากต้องการปรับบรรยากาศห้องใหม่ก็แค่ทาทับเฉดสีที่ชอบ สีผนังยังช่วยให้ห้องดูกว้าง สบายตา และเข้ากับทุกสไตล์การตกแต่ง

ข้อดีอีกอย่างคือ ค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก และสามารถทำเองได้หากมีอุปกรณ์พื้นฐาน จึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าทั้งเรื่องงบประมาณและเวลาอย่างไรก็ตาม สีทาผนังอาจ ซีดจางหรือแตกลอก ได้เมื่อโดนแสงแดดจัด หรือในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำหรือห้องครัว จึงควรเลือกชนิดของสีที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม

คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับ ติดวอลเปเปอร์

ปัญหาที่พบบ่อยเมื่อ ติดตั้งวอลเปเปอร์ มีอะไรบ้าง?

ปัญหาที่พบบ่อยคือ วอลเปเปอร์พองเป็นฟองอากาศ เนื่องจากรีดไล่อากาศออกไม่หมด หรือปัญหา รอยต่อไม่สนิท และ ลายไม่ตรง ซึ่งมักเกิดจากการตัดและแปะแผ่นแรกที่ไม่เป็นแนวตรง ส่วนปัญหาใหญ่คือวอลเปเปอร์ลอกร่อนตามขอบหรือมุม ซึ่งเกิดจากการทากาวไม่ทั่วถึงหรือมีปัญหาความชื้นที่ผนัง

ติดวอลเปเปอร์ ตรม.ละกี่บาท?

ราคา ติดวอลเปเปอร์ ต่อตารางเมตรจะแตกต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับคุณภาพและประเภทของวัสดุ โดยราคาเฉพาะตัววอลเปเปอร์แบบไวนิลทั่วไปอาจเริ่มต้นที่ประมาณ 150 – 300 บาทต่อตารางเมตร แต่ถ้าเป็นแบบผ้าหรือมีเท็กซ์เจอร์สูงราคาก็จะสูงขึ้นตามลำดับ

ติดวอลเปเปอร์ใช้กาวอะไร?

โดยทั่วไปแล้ว มักจะใช้ “กาวแป้งสำหรับวอลเปเปอร์” (Wallpaper Paste) ซึ่งผลิตจากเซลลูโลส โดยอาจผสมกับ “กาวลาเท็กซ์” (กาวน้ำ) ในปริมาณเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความเหนียวแน่นและการยึดเกาะที่ดีขึ้น นอกจากนี้ วอลเปเปอร์แบบมีกาวในตัวก็มีสติกเกอร์ชนิดพิเศษติดมาให้แล้ว

ข้อเสียของวอลเปเปอร์คืออะไร?

ข้อเสียหลักคือวอลเปเปอร์ส่วนใหญ่มักจะไม่ทนทานต่อความชื้นและน้ำ หากพื้นที่ติดตั้งมีความชื้นสูงจะทำให้วอลเปเปอร์ขึ้นราหรือลอกร่อนได้ง่าย อีกทั้งการเปลี่ยนลายวอลเปเปอร์ในอนาคตอาจใช้เวลาในการลอกออกและทำความสะอาดผนังมากกว่าการทาสีใหม่

ติดวอลเปเปอร์เอง ยากไหม?

การ ติดวอลเปเปอร์เอง ไม่ได้ยากเกินความสามารถ โดยเฉพาะวอลเปเปอร์แบบมีกาวในตัว แต่จะต้องใช้ความประณีตสูงมากในการตัดและต่อลาย รวมถึงการรีดไล่ฟองอากาศ ซึ่งอาจใช้เวลาและแรงงานมากกว่าที่คิดหากไม่มีประสบการณ์มาก่อน

ติดตั้งวอลเปเปอร์ ใช้เวลานานไหม?

ระยะเวลาขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่และชนิดของวอลเปเปอร์ สำหรับห้องขนาดกลาง (ประมาณ 30 ตร.ม.) โดยเฉลี่ยแล้วหากช่างผู้ชำนาญอาจใช้เวลาเพียง 1 วัน แต่ถ้าเป็นการ ติดวอลเปเปอร์เอง อาจใช้เวลา 1-2 วันเพื่อเก็บรายละเอียดให้เรียบร้อย

วอลเปเปอร์สามารถติดนอกบ้านได้หรือไม่?

วอลเปเปอร์ส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานภายในอาคารเท่านั้น เนื่องจากไม่ทนทานต่อรังสียูวี แสงแดด และความชื้นจากภายนอก ซึ่งจะทำให้สีซีดจางและลอกร่อนได้ง่าย อย่างไรก็ตามปัจจุบันมี “วอลเปเปอร์สำหรับภายนอก” หรือวัสดุบุผนังไวนิลพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อทนต่อสภาพอากาศภายนอกโดยเฉพาะ

ค่าแรง ติดตั้งวอลเปเปอร์ ตารางเมตรละเท่าไหร่?

ค่าแรงสำหรับช่าง ติดตั้งวอลเปเปอร์ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 50 – 100 บาทต่อตารางเมตร โดยราคานี้อาจเปลี่ยนแปลงตามความยากง่ายของลายวอลเปเปอร์ สภาพผนัง และพื้นที่ในการติดตั้งที่ซับซ้อน เช่น การติดบนเพดานหรือบริเวณที่มีความสูงมาก

ติดวอลเปเปอร์ลายสวย ๆ กับ CKK Wallpaper

CKK Wallpaper มีวอลเปเปอร์หลากหลายสไตล์ให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็นลายไทย ลายอิฐ ลายหิน ลายไม้ ลายดอกไม้ หรือลายกราฟิก เหมาะสำหรับทุกสถานที่สำคัญและทุกห้องในบ้าน 

การติดวอลเปเปอร์ด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพียงเตรียมการอย่างดี ทำตามขั้นตอน และใช้เทคนิคที่ถูกต้อง คุณก็สามารถเปลี่ยนโฉมห้องให้สวยงามได้อย่างมืออาชีพ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีติดวอลเปเปอร์ สามารถติดต่อทีมงาน CKK Wallpaper เรายินดีให้คำปรึกษาและช่วยให้การตกแต่งบ้านของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและสวยงามตามที่ต้องการ สามารถติดต่อเราได้ที่

โทรศัพท์: 092-384-9937

Line: @ckkwall